นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัท บางกอกสปอร์ตแวร์ จำกัด
(“เรา” หรือ “บางกอกสปอร์ตแวร์”)  มุ่งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของท่าน ซึ่งข้อมูลต่อไปนี้คือแนวทางที่เราปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผล”) และการปกป้องซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้กับเราในระหว่างเยี่ยมชม เว็บไซต์ https://www.xlarge.co.th/ 
หรือใช้แอพพลิเคชั่นของเรา หรือรับบริการจากเรา   นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุถึงตัวท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าจะได้รับจากท่านโดยตรงหรือเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สามก็ตาม (“ข้อมูล” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคล”) สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลด้านสุขภาพของท่านนั้น นอกเหนือจากการปฏิบัติตามนโยบายนี้แล้ว เราจะยึดถือปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎ ประกาศ คำสั่งหรือระเบียบของหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม เราในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับการให้บริการเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของเรา รวมทั้งการเข้ารับบริการของท่าน โดยในการใช้บริการดังกล่าวในแต่ละครั้งให้ถือว่าท่านได้อ่านและตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้   ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


1.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ยินยอมให้ข้อมูลกับเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลการขอรับบริการจากเราผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือช่องทางอื่นใดของเรา ตัวอย่างเช่น การสมัครงาน  การจัดซื้อจัดจ้าง    การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนใช้บริการที่เคาน์เตอร์   นอกจากนี้ เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน  บริษัทประกัน  ตัวแทนจำหน่าย  ผู้ให้บริการของเรา  หรือหน่วยงานภาครัฐในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด 

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม  ดังนี้
  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น  ชื่อ นามสกุล
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล
  • ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ใช้บริการ และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System
  • ข้อมูล Feedback หรือสื่อสังคมอื่นๆ 
เราจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน ดังต่อไปนี้ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด  เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน

3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกัน หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือฐานการประมวลผลอื่นใดตามที่ระบุในพระราชบัญญัติค้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  พ.ศ.2562   สำหรับวัตถุประสงค์ดังนี้ 

3.1 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้บริการ ได้แก่ 
  • จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของเรา และการเข้าถึงบริการของท่าน ไม่ว่าทางออนไลน์หรือออฟไลน์
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับผู้ให้บริการอื่นซึ่งจะช่วยให้การให้บริการ มีความรวดเร็วขึ้น
  • วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
  • รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะอยู่ในพื้นที่สำนักงานหรือสาขาให้บริการ
  • ปฏิบัติตามกฎของบริษัท
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว
 3.2 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการขาย การตลาด  ซึ่งเราจะประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้เฉพาะกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลแก่เรา ได้แก่
  • อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่สมาชิกของเรา
  • จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
  • เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของเรา เช่น ปัญหาการใช้บริการ การเรียกร้องสัมภาระหรือความสูญหายใด ๆ
3.3  วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบริหารงานด้านต่างๆ ของบริษัท  ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง  ได้แก่ 
  • การบัญชี  การเงิน  
  • การบริหารด้านสารสนเทศ  ข้อมูลสนับสนุนธุรกิจ
  • การบริหารคลังสินค้า  การจัดส่ง     
4. บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผย

เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และเราจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
  • บริษัทในเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่เรา หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของเรา เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 
  • หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการแก่ท่าน หรือตอบสนองตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
  • ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
  • เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
  • การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม
  • เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของเรา อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตามลิงก์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ครอบคลุมไปถึงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ดังนั้น การที่บุคคลที่สามประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา และโปรดทราบว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและความรับผิดใดๆ จากการกระทำของบุคคลที่สามดังกล่าว
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากท่านไม่แสดงความยินยอมให้เราทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เราจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลของเราและจะดำเนินการให้เสร็จโดยไม่ชักช้า
เราจะใช้มาตรการทางเทคนิค และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม เช่น เราใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และเราจะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ตหรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร

6. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านสามารถติดต่อเรา/เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล/เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการใช้สิทธิของท่านดังต่อไปนี้
  1. สิทธิในการเข้าถึง:
  • คุณมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ของคุณ ขอสำเนาข้อมูลของคุณ และขอโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่คุณให้เราไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น
  1. การคัดค้านและจำกัด:
  • คุณมีสิทธิ์ในการคัดค้านหรือจำกัดการเก็บรวบรวม, ใช้, หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
  1. การแก้ไขและลบ:
  • คุณมีสิทธิ์ขอให้แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน และสามารถขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลของคุณหรือเปิดเผยถึงต้นกำเนิดของข้อมูลของคุณหากไม่ได้รับจากคุณ
  1. การร้องเรียน:
  • หากคุณเชื่อว่าเราหรือพนักงานของเรามีการประมวลผลข้อมูลของคุณไม่ตรงตามความยินยอมหรือสิทธิตามกฎหมาย คุณมีสิทธิ์ร้องเรียนที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคค
    5. ถอนความยินยอม :
  • คุณมีสิทธิ์ถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม, การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของเราในการให้บริการ ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางกฎหมายหรือข้อผูกพันทางสัญญา

โปรดทราบว่าหากคุณถอนความยินยอม, อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของเราในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณสำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ นอกจากนี้, อาจมีข้อจำกัดที่สามารถถอนความยินยอมตามกฎหมายหรือข้อตกลงสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่คุณ


7. ช่องทางการติดต่อเรา

หากท่านต้องการใช้สิทธิใดๆ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ กรุณาดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน และหากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยติดต่อที่อีเมล์ xlargethailand@bkksw.co.th

ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องแจ้งให้เราทราบ ได้แก่ 
  • ชื่อ สกุล 
  • เรื่องที่ต้องการติดต่อสอบถาม รายละเอียดของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น 
  • เบอร์โทรและที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งที่อยู่สำหรับการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail) ของท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
เราอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของเรา ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายเวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของเราที่ https://www.xlarge.co.th/ เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่เราใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1 มิถุนายน พ.ศ.2565 

 

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า หรือผู้ใช้บริการ  บางกอกสปอร์ตแวร์

เรียน ลูกค้าของบริษัทฯ

บริษัท บางกอกสปอร์ตแวร์ จำกัด  (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามกฎหมายไทย

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม โดยที่ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทฯ เกี่ยวกับตัวท่านเอง หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่าน (“ท่าน”) และข้อมูลที่บริษัทฯ รับทราบจากการที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัทฯ และข้อมูลทางการตลาดที่ท่านประสงค์ที่จะให้บริษัทฯ ส่งให้แก่ท่าน
  • บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  • บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลใดบ้าง
  • ทางเลือกที่บริษัทฯ นำเสนอให้แก่ท่าน รวมถึงวิธีการเข้าถึง และดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน
  • สิทธิที่ท่านมีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้แก่อะไรบ้าง และกฎหมายนั้นปกป้องคุ้มครองท่านอย่างไร

1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของสินค้า บริการ และ/หรือ ธุรกรรม ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายดังต่อไปนี้ (แต่ไม่จำกัดเพียง)

  • เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือ ขอรับบริการจากบริษัทฯ
  • การสนทนาระหว่างท่าน และบริษัทฯ รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
  • เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการใช้คุกกี้และโปรแกรม tracking อื่นๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อมูลที่ได้รับจากเอกสารประกันภัย หรือเอกสารอื่นๆ
  • แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า
  • เมื่อท่านเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือการส่งเสริมการตลาดของบริษัทฯ

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจร่วมกับบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่บริษัทในเครือของบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเก็บรวบรวมผ่านทางเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาซึ่งวิเคราะห์แล้วว่าตรงกับพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะแจ้งและเปิดโอกาสให้ท่าน ปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลเช่นว่านั้นได้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ประมวลผลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้ (แต่ไม่จำกัดเพียง) ชื่อ-นามสกุล , เบอร์โทรศัพท์ , ที่อยู่ , อีเมลล์

  • เพื่อการจัดส่งสินค้าที่ท่านสั่งซื้อ

  • เพื่ออัพเดทข้อมูลการส่งสินค้า รวมไปถึงในกรณีที่ผู้ใช้บริการต้องการบริการอื่นๆ เพิ่มเติม

  • เพื่อการให้ข้อมูลสินค้าที่เกี่ยวข้อง

  • เพื่อดำเนินการจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อสินค้าของท่าน และการให้บริการต่างๆ

  • เพื่อดำเนินการจัดส่งอีเมลถึงท่านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสาร สิทธิพิเศษและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ท่านต้องการทราบ

  • บริษัท จะไม่เก็บข้อมูลเลขบัตรเดบิต / เครดิต ของลูกค้า

  • ระยะเวลาการเก็บข้อมูล: ข้อมูลจะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 15 ปี เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  • ประมวลผลข้อมูลสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์หรือคำขอบริการ
  • การสื่อสารกับคุณ, รวมถึงบันทึกการโทรศัพท์, จดหมาย, อีเมล, และรูปแบบการสื่อสารอื่น ๆ
  • ใช้ข้อมูลที่เก็บไว้จากการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ, รวมถึงคุกกี้และกลไกติดตามอื่น ๆ, สำหรับวัตถุประสงค์การวิเคราะห์และโฆษณา
3. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท  
 
       บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลที่สามในกรณีบางประการ, เช่นการร่วมมือกับบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท
4. ตัวเลือกที่บริษัทจัดให้
         บริษัทจัดให้ตัวเลือกสำหรับคุณ, รวมถึงวิธีการเข้าถึงและปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, และตัวเลือกเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล
5.สิทธิของคุณเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
        คุณมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของคุณ, คัดค้านหรือระงับการประมวลผลข้อมูล, ขอการแก้ไข, เพิ่มเติม, ลบ, หรือเปิดเผยถึงต้นกำเนิดของข้อมูลของคุณ และมีสิทธิ์ร้องเรียนที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
        บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลา 15 ปี หลังจากนั้น, บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้

 

สำหรับคำถามหรือคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทที่ xlargethailand@bkksw.co.th

ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2022

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจจะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับฝ่ายภายนอก บริษัทพึงพิจารณาใช้หรือหลายฐานทางกฎหมายเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ต่อไปนี้คือฐานทางทางกฎหมายที่บริษัทพึงพิจารณา:

 

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานทางทางกฎหมาย

 

2.1 เพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อ ดำเนินการตรวจสอบคำสั่งซื้อก่อนการจัดส่ง และจัดการธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการชดเชยการชำระเงิน

 การปฏิบัติตามสัญญา

 

2.2 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบริการต่าง ๆ เช่นการจัดส่ง การช่วยเหลือลูกค้า การจัดการร้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินการสำรวจ และการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกับการขาย

ความยินยอม

 

2.3 เพื่อพัฒนาช่องบริการออนไลน์ของบริษัทให้มีคุณภาพสูงสุด รวดเร็ว และสะดวกสบาย

ความยินยอม

 

2.4 เพื่อให้สามารถเข้าถึงหรือถ่ายโอนข้อมูลภายในบัญชี หมายเลขสมาชิก หรือรหัสส่วนตัวผ่านอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งเครื่องและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบการเข้าถึงบัญชี

การปฏิบัติตามสัญญาและได้ประโยชน์ที่ถูกต้อง

 

2.5 เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่น่าสนใจและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ รวมถึงโปรโมชั่นการขาย

ได้ประโยชน์ที่ถูกต้องและความยินยอม

 

2.6 สำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล โปรแกรมดิจิทัล และโปรแกรมความเชื่อมั่น

ความยินยอม

 

2.7 สำหรับการเข้าร่วมในโปรแกรมสมาชิกและรางวัล รวมถึงการติดต่อโดยบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทที่เกี่ยวข้อง และพันธมิตรทางธุรกิจ

ความยินยอม

 

2.8 เพื่อวัดประสิทธิภาพของนโยบายการตลาดและการโฆษณาของบริษัทผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ

ความยินยอม

 

2.9 เพื่อการชำระความขัดแย้งหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทและคุณเกี่ยวกับบริการของมัน

การปฏิบัติตามสัญญา

 

2.10 สำหรับความรับผิดชอบตามกฎหมายและตามที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทเป็นเจ้าของข้อมูล

 

 ในกรณีที่บริษัทพึงพิจารณาใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของตนเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสิทธิ์เหล่านี้มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับความคาดหวังที่สมเหตุสมผลของคุณ และจะรักษาให้ประโยชน์ที่ได้รับไม่เกินจากที่คุณคาดหวังได้สมเหตุสมผลในฐานะเจ้าของข้อมูลนั้น

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลที่สามในกรณีที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงสถานการณ์ต่อไปนี้:

  • จำเป็นตามข้อกำหนดของข้อตกลง
  • จำเป็นตามกฎหมาย (เช่น เพื่อสืบสวนและป้องกันการฉ้อฉล, การละเมิดภาษี, อาชญากรรมทางการเงิน, ฯลฯ)
  • จำเป็นเพื่อรายงานทางกฎหมาย, การพิพากษาคดี, การบังคับสิทธิทางกฎหมาย, หรือการป้องกันทางกฎหมาย
  • ทำเพื่อประโยชน์ของธุรกิจที่เป็นไปตามกฎหมาย (เช่น การจัดการความเสี่ยง, การยืนยันเอกสารทางตัวตน, การให้บริการตามที่ขอ, การประเมินความเหมาะสมของคุณสำหรับผลิตภัณฑ์หรือ/และบริการ, การรายงานภายใน, การวิเคราะห์ข้อมูล, การจัดการปฏิบัติการ, ฯลฯ)

นอกจากนี้, อาจได้รับความยินยอมจากคุณสำหรับการเปิดเผยดังกล่าว, และบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่หน่วยงานต่อไปนี้:

  • บริษัทในเครือ, บริษัทที่เกี่ยวข้อง และบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่ม
  • หน่วยงานที่ให้บริการหรือทำงานเพื่อบริษัท รวมถึงผู้รับเหมา, ตัวแทน, หรือผู้ให้บริการ
  • บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้จัดการประโยชน์ของคุณ
  • บุคคลที่คุณได้ทำการชำระหรือรับการชำระจาก
  • สถาบันการเงินและผู้ให้บริการบริการชำระเงิน
  • บุคคลหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการจัดโครงสร้างบริษัท, การผสมผสาน, การซื้อขาย, หรือกิจกรรมการเข้ารวมทางธุรกิจของบริษัท
  • หน่วยงานทางกฎหมายและกำกับ, ศาล, หน่วยงานตรวจสอบ, ผู้ตรวจบัญชี, หรือบุคคลที่บริษัทได้แต่งตั้งหรือขอร้องให้ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท
  • บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาททุกประการ, รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
  • หน่วยงานต่อต้านการทุจริตที่ใช้ข้อมูลเพื่อตรวจจับและป้องกันการทุจริตทางการเงิน และการยืนยันตัวตนของคุณ
  • บุคคลหรือหน่วยงานที่จัดการหรือดำเนินการแทนคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • บุคคลที่บริษัทได้รับคำสั่งจากคุณให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
  • คู่ค้าทางธุรกิจหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

เมื่อบริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่สาม, ข้อมูลของคุณจะได้รับการคุ้มครองตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สาม, และคุณจะได้รับการแนะนำให้อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขาเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการจัดการข้อมูลของคุณ

ในกรณีที่มีการถ่ายโอนหรือเปิดเผยข้อมูลไปยังประเทศอื่น ๆ, บริษัทจะรักษาให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เทียบเท่ากับของประเทศไทย หากมีการประมวลผล, ใช้, หรือเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้, บริษัทจะขอความยินยอมจากคุณก่อนดำเนินการต่อไป

 

  1. การเก็บรักษาข้อมูล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตลอดระยะเวลาของความสัมพันธ์ลูกค้ากับบริษัทและหลังจากการสิ้นสุดความสัมพันธ์ดังกล่าว (เช่น หลังจากปิดบัญชีกับบริษัท, การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์, หรือหากบริษัทปฏิเสธการสมัครบริการของคุณหรือหากคุณขอสิ้นสุดบริการของบริษัท) บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับแต่ละประเภทข้อมูลส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล.

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามที่จำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ (เช่น กฎหมายทางธุรกิจ, กฎหมายทางสถาบันการเงิน, กฎหมายทางตลาดหลักทรัพย์และตลาดทุน, กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการล้างเงิน, กฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตในการเงิน, กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธมวลรวม, กฎหมายทางบัญชี, กฎหมายทางภาษี, กฎหมายแรงงาน, และกฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ). นอกจากนี้, บริษัทอาจจะต้องเก็บรักษาบันทึกจากกล้องวงจรปิดที่สำนักงานใหญ่, สาขา, และ/หรือบันทึกเสียงที่สามารถเกิดจากศูนย์บริการโทรศัพท์เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย, การป้องกันการทุจริต, และการสืบสวนการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยที่คุณหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รายงาน

 ในทุกกรณี, ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้ในระบบปลอดภัยและจัดการตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่ใช้บังคับ. หากบริษัทต้องการเก็บรักษา, ใช้, หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกินจากที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้, บริษัทจะขอความยินยอมจากคุณก่อนดำเนินการ.

 

  1. ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีหน้าที่ในการรักษาให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ถือโดยบริษัทเป็นปัจจุบัน, เต็มรูปแบบ, และถูกต้อง. คุณต้องแจ้งบริษัทเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ. คุณสามารถอัปเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านทางเว็บไซต์, หรือบริษัทอาจขอให้คุณทำการอัปเดตข้อมูลของคุณเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นข้อมูลปัจจุบัน, ถูกต้อง, และครบถ้วน

 

  1. สิทธิของคุณเป็นเจ้าของข้อมูล
  • สิทธิในการถอนความยินยอม: คุณมีสิทธิที่ถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณทุกเมื่อ. บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อไปหากมีเหตุผลทางกฎหมายอื่น ๆ

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: คุณมีสิทธิที่ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากบริษัท

  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: คุณมีสิทธิที่ขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้มันถูกต้อง, ปัจจุบัน, และครบถ้วน

  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล: คุณมีสิทธิที่ขอให้บริษัทลบ, ทำลาย, หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่สามารถระบุตัวตนได้หากไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อ. คุณสามารถใช้สิทธินี้พร้อมกับสิทธิในการทยอยต่อการประมวลผลในข้อถัดไป

  • สิทธิในการประท้วง: คุณมีสิทธิที่ประท้วงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบริษัท, โดยเฉพาะถ้าบริษัทประมวลผลข้อมูลของคุณเพื่อสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายหรือการจัดลำดับเกี่ยวกับการตลาด

  • สิทธิในการจำกัดการประมวลผล: คุณมีสิทธิที่ขอร้องการระงับชั่วคราวของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่นเมื่อคุณต้องการให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือเมื่อคุณขอให้บริษัทพิสูจน์ความจำเป็นหรือฐานที่ถูกต้องสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

  • สิทธิในการพกพาข้อมูล: คุณมีสิทธิที่ขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังหน่วยงานอื่น

  • สิทธิในการยื่นคำร้องเรื่องร้องเรียน: คุณมีสิทธิที่ยื่นคำร้องเรื่องร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง, รวมถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โปรดทราบว่าสิทธิเหล่านี้มีเงื่อนไขและข้อจำกัดบางประการภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ. หากคุณต้องการใช้สิทธิใด ๆ นี้, คุณสามารถติดต่อบริษัทโดยตรง

การดำเนินการเรื่องร้องเรียน

หากคุณต้องการยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ, คุณสามารถติดต่อบริษัท, และคำขอของคุณจะได้รับการพิจารณาโดยรวดเร็ว. การยื่นคำร้องเรียนกับบริษัทไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของคุณที่จะยื่นคำร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐบาลหรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. การยกเว้นและข้อจำกัดในการบริการ

เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงและบริการอื่น ๆ

เมื่อเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอกหรือไปยังไซต์บริการของบุคคลที่สาม, คุณยอมรับว่าบริษัทไม่มีควบคุม, ไม่ระบุ, และไม่ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว, ปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูล, หรือการใช้หรือประมวลผลข้อมูลของคุณในเว็บไซต์เหล่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลของคุณบนเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงนั้น

 

  1. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลของคุณถือเป็นสินทรัพย์ของบริษัท และดังนั้น, บริษัทให้ความสำคัญมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทนำมาใช้มาตรการทางกายภาพและเทคนิคที่ทันสมัยเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทมีนโยบายและการควบคุมภายในเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะไม่สูญหาย, ถูกทำลายโดยประมาท, ใช้ไปไม่เหมาะสม, เปิดเผย, หรือเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต พนักงานได้รับการฝึกอบรมในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย, และการไม่ปฏิบัติตามอาจทำให้เกิดมาตรการวินิจฉัย

  1. ความรับผิดชอบ

คุณมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและปัจจุบันของข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้กับบริษัท คุณต้องแจ้งให้บริษัททราบทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงในข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ การที่ไม่ปฏิบัติตามความรับผิดชอบนี้อาจ导致ขาดความสามารถในเรื่องของสิทธิตามกฎหมาย คุณต้องให้ข้อมูลบางประการบางประการเช่น ข้อมูลติดต่อและรายละเอียดการชำระเงินเพื่อให้บริษัทสามารถทำสัญญากับคุณ การที่คุณไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของหน้าที่ทางสัญญา

 

  1. การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่เป็นประจำและอาจปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น รุ่นล่าสุดสามารถตรวจสอบได้โดยการดูวันที่ที่อยู่ด้านบนของนโยบายความเป็นส่วนตัว

  1. ข้อมูลติดต่อ

หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือต้องการใช้สิทธิใด ๆ กรุณาติดต่อบริษัทผ่านทาง:

เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล: ฝ่ายบริการลูกค้า อีเมล: xlargethailand@bkksw.co.th โทรศัพท์: 098-990-5500

รายละเอียดติดต่อเหล่านี้มีไว้สำหรับการสอบถามที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล